เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับของอาหารสำคัญอย่างไร

การที่เราบริโภคอาหารหนึ่งจาน และเราสามารถรู้ได้ว่าอาหารจานโปรดนั้นๆ มีแหล่งผลิตมาจากที่ใด และมีกระบวนการผลิตอย่างไร? คุณคิดว่าดีหรือไม่? ซึ่งการที่เราจะรู้ลึกได้ขนาดนั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ในแวดวงธุรกิจอาหารนำมาใช้เพื่อการันตีคุณภาพอาหาร ซึ่งเราเรียกว่า การตรวจสอบย้อนกลับอาหาร

การตรวจสอบย้อนกลับของอาหารคือ ความสามารถในการระบุและตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ของ ห่วงโซ่อาหารตั้งแต่การผลิตจนถึงการจำหน่าย ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการผลิตอาหารประกอบด้วยหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การจัดหาเมล็ดพันธุ์และปุ๋ย การทำฟาร์ม การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การเก็บรักษา การขนส่ง การขาย ไปจนถึงนำวัตถุดิบที่ได้ไปผลิตอาหารที่พวกเราบริโภคกันอยู่ทุกวันนี้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การตรวจสอบย้อนกลับของอาหารได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั้งจากผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะการติดตามอาหารในห่วงโซ่อุปทานทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยด้านอาหารของ FSMA (Food Safety Modernization) และเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร สามารถเรียกคืนอาหารล็อตที่ตรวจพบการปนเปื้อนจากซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกในทันที นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับของอาหารในห่วงโซ่อุปทานที่ช่วยลดการเจ็บป่วยจากอาหาร และจากจำนวนการเรียกคืนอาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก นอกจากก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วต้นทุนของการเรียกคืนผลิตภัณฑ์มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านถึง 12 ล้านดอลลาร์

ในอดีต บริษัทต่างๆ ติดตามอาหารโดยใช้วิธีการแบบเดิม เช่น บันทึกกระดาษ และต่อมาใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง แต่ก็ไม่เพียงพอในโลกยุค 4.0 ที่ความต้องการของผู้บริโภคให้ความสนใจเรื่องคุณภาพอาหารที่บริโภค แม้จะจ่ายมากขึ้นหากผลิตภัณฑ์นั้นทำให้พวกเขาเข้าใจที่มาที่แสดงให้เห็นความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานอาหาร

เทคโนโลยีที่นิยมนำมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับ ได้แก่

บาร์โค้ด : บาร์โค้ดถูกนำมาใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1970 และยังคงเป็นเทคโนโลยีติดตามและติดตามที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในอุตสาหกรรมอาหาร

อุปกรณ์ระบุความถี่วิทยุ (RFID) : มีการใช้ ชิป RFIDขนาดเล็กในการติดตามข้อมูลในระบบสินค้าคงคลังต่างๆ เพื่อติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์โดยใช้แท็ก ซึ่งระบุและติดตามผลิตภัณฑ์อาหารด้วยคลื่นวิทยุ

ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) : ซอฟต์แวร์การจัดการคลังสินค้าทำงานเป็นที่เก็บข้อมูลที่รวบรวมผ่านแท็ก RFID หรือบาร์โค้ด ข้อมูลจากการติดตามการจัดส่งที่จัดเก็บไว้ใน WMS มีความสำคัญในระหว่างการเรียกคืนผลิตภัณฑ์

ปัจจุบันเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับของอาหารกำลังเปลี่ยนไปสู่แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อติดตามและติดตามผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับที่นิยมนำมาใช้ล่าสุด อาทิ

Internet of Things (IoT) : มีการใช้ IoT มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ภายในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร แท็กดิจิตอลและเซ็นเซอร์ที่จับคู่กับเครื่องมือและอุปกรณ์การรวมข้อมูลอื่นๆ สามารถช่วยระบุและติดตามสภาพของผลิตภัณฑ์อาหารผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

แอปพลิเคชันที่ใช้บล็อคเชน : เทคโนโลยีบล็อคเชนสามารถติดตามการเดินทางของอาหารจากฟาร์มหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อปรับปรุงความโปร่งใส เรียกคืนความเร็ว และป้องกันการฉ้อโกงอาหาร การตรวจสอบย้อนกลับบนบล็อกเชนสามารถให้ผู้บริโภคสามารถสแกนรหัส QR ที่แสดงบนฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และผู้ผลิต ผู้แปรรูป และการเดินทาง ตลอดทางกลับไปยังฟาร์มที่เติบโต

เทคโนโลยีการตรวจจับอาหาร : นอกเหนือจากการวิเคราะห์ภาพและการถ่ายภาพด้วยไฮเปอร์สเปกตรัมแล้ว เทคโนโลยีการตรวจจับอาหาร เช่น การตรวจจับทางชีวภาพ สามารถวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อกำหนดส่วนประกอบหรือระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดการปนเปื้อนได้

แม้ว่าเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับจะมีประสิทธิภาพในการประกันความสดและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหาร แต่ต้นทุนที่สูงอาจทำให้ผู้ผลิตชะลอการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในธุรกิจอาหารที่มีอัตรากำไรต่ำและมีปริมาณมาก โดยที่แพลตฟอร์มการจัดส่งที่ใช้ RFID สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับของอาหารที่มีราคาแพง

อย่างไรก็ตาม ขนาดตลาดการตรวจสอบย้อนกลับของอาหารทั่วโลก คาดว่าจะมีอัตราเติบโตต่อปี 9% มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 18.15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เป็น 35.48 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2572 โดยปัจจัยหลักที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดคือ ความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ดังนั้น การนำความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใส ด้วยการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้มั่นใจในสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นที่ต้องใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อลดผลกระทบของการเรียกคืนและต้นทุนความรับผิดในธุรกิจ การลดของเสีย และเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตราสินค้าในหมู่ผู้บริโภค

ความปลอดภัยของอาหารกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้บริโภคและหน่วยงานกำกับดูแล ประกอบกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการปนเปื้อนในอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตของตลาด การตรวจสอบย้อนกลับของอาหารยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการคุณภาพโดยรวมที่คุ้มค่า ซึ่งสามรถช่วยลดผลกระทบจากอันตรายด้านความปลอดภัยของอาหารได้อย่างต่อเนื่อง และยังอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว การตรวจสอบย้อนกลับของอาหารยังช่วยสร้างความไว้วางใจและเพิ่มความมั่นใจ ควบคู่ไปกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับห่วงโซ่อาหารทั้งหมด ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยวิธีการติดตามที่ทันสมัย กำลังกระตุ้นการเติบโตของตลาด

นอกจากนี้ ตลาดยังมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับของอาหารเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบและรับรองแหล่งที่มาของอาหาร และปรับปรุงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมทั้งยังช่วยป้องกันการฉ้อโกง เพิ่มความสามารถในการจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ลดค่าใช้จ่ายในการทดสอบอาหาร และเพิ่มกำไร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ตลาดนี้ขับเคลื่อนไปได้อย่างแน่นอน


Sources : Polarismarketresearch, Forbes, BIS Research